

หากคุณหลงใหลในวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น จานเล็กแต่ละเอียดอ่อน และประสบการณ์การกินที่พิเศษกว่าที่เคย Kissuisen ณ โรงแรม Bangkok Marriott The Surawongse คือคำตอบใหม่ที่คุณต้องลอง ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป แต่คือ “hideaway” ที่รวม Izakaya, Teppanyaki, Omakase และ Sake Bar ไว้ในที่เดียว เพื่อปลุกสัมผัสห้าองค์ประกอบแห่งธรรมชาติ (Godai) ราวกับพาคุณเดินทางผ่านกาลเวลาและมิติอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพได้ในมื้อเดียว
หากคุณคุ้นเคยกับ Eatigo ในการจองร้านอาหารที่มาพร้อมดีลพิเศษ สำหรับ Kissuisen ก็มีข้อเสนอที่น่าสนใจมาก เพราะสามารถใช้ส่วนลดสูงสุด 50% ได้กับเมนูโซน Izakaya และ Teppanyaki ซึ่งช่วยให้คุณได้ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นพรีเมียมในราคาที่ดึงดูดใจ แต่มีข้อจำกัดเล็กน้อย คือต้องจองและใช้ภายในช่วงเวลาที่กำหนด และ ไม่ครอบคลุมเมนู Omakase หรือเมนูพิเศษเช่น Kobe หรือล็อบสเตอร์
สำรองที่นั่ง: สามารถ จอง Kissuisen ผ่าน Eatigo
เมื่อเปิดประตูเดินเข้าสู่ Kissuisen คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ผสมผสานความอบอุ่นแบบ Izakaya กับความโอ่อ่าหรูหราของโรงแรมห้าดาว ด้วยการจัดพื้นที่ตามองค์ประกอบ Godai:
บทสรุปคือที่ Kissuisen ไม่ใช่แค่ร้านอาหารแต่เป็น “ห้องทดลองของประสบการณ์กิน” ที่สร้างอารมณ์และความทรงจำผ่านอาหาร
หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้ Kissuisen แตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปคือการแบ่งออกเป็นหลายโซนที่มีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกัน ทั้ง Izakaya, Teppanyaki, Omakase และ Sake Bar ซึ่งแต่ละโซนก็มีเมนูไฮไลต์ที่น่าสนใจและควรลองอย่างยิ่ง
เริ่มจากโซน Izakaya ที่เหมาะกับการมานั่งสบาย ๆ กับเพื่อนหรือครอบครัว เมนูที่นี่เสิร์ฟในสไตล์จานเล็กหลากหลายรสชาติที่เลือกได้ตามใจ เช่น ยากิโทริไม้ร้อน ๆ ที่ย่างบนเตาถ่านจนหนังกรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมเตะจมูกตั้งแต่เชฟกำลังพลิกไม้บนเตา หรือจะเป็นปลาซาบะย่างเกลือที่ให้รสชาติแบบดั้งเดิมญี่ปุ่นแท้ ๆ ทานคู่กับเบียร์เย็น ๆ หรือสาเกก็เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีซาชิมิสดที่คัดจากปลาส่งตรงจากญี่ปุ่น ซึ่งเน้นความสดหวานของวัตถุดิบมากกว่าการปรุงแต่ง เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติธรรมชาติของอาหารทะเล
หากขยับไปอีกฝั่งหนึ่งของร้าน คุณจะพบกับโซน Teppanyaki ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของ Kissuisen อย่างแท้จริง เมนูที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Teppanyaki Set ซึ่งมาในราคา 1,590 บาท NET เสิร์ฟแบบครบมื้อ มีทั้งสลัด ผักย่าง ข้าวกระเทียม มิโสะซุป และปิดท้ายด้วยของหวาน จุดเด่นคือการได้เห็นเชฟปรุงอาหารตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการหั่นเนื้อวากิวชิ้นหนาแล้วโปะลงบนกระทะร้อนที่ส่งเสียงฉ่า กลิ่นหอมที่ลอยขึ้นมากระทบประสาทสัมผัส หรือการจุดไฟโชว์เล็ก ๆ ที่ทำให้การกินสนุกยิ่งขึ้น นอกจากเนื้อวากิวแล้ว ยังมีซีฟู้ดอย่างกุ้งล็อบสเตอร์หรือสแกลลอปที่สดหวานไม่แพ้กัน ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการประสบการณ์การกินที่ทั้งอร่อยและตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกัน
สำหรับใครที่อยากสัมผัสความหรูหราระดับสูงสุด ต้องลอง Omakase Seifu ที่เป็นการทำงานร่วมกับเชฟ Gion Matayoshi เชฟมิชลินสองดาวจากเกียวโต ที่นำเสนอคอร์สแบบ Kaiseki แท้ ๆ เสิร์ฟทีละคำอย่างประณีต วัตถุดิบถูกคัดมาอย่างพิเศษ เช่น ปลาโนโดะงุโระที่ขึ้นชื่อเรื่องรสหวานมัน ล็อบสเตอร์นำเข้าแบบสดใหม่ และไข่หอยเม่นที่คัดจากฤดูกาลที่ดีที่สุด ทุกคำของ Omakase ไม่เพียงแค่เน้นรสชาติ แต่ยังสะท้อนถึงศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่นที่เน้นความสมดุลและความเคารพต่อวัตถุดิบ
อีกหนึ่งความพิเศษที่ไม่ควรมองข้ามคือโซน Mizu Sake Bar ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นเมนูอาหารหลัก แต่บาร์แห่งนี้ก็มีเครื่องดื่มที่ช่วยเสริมรสชาติของอาหารได้อย่างยอดเยี่ยม การจับคู่ซาเกะกับเมนูอาหารแต่ละจานเป็นศิลปะที่ทางร้านให้ความสำคัญ คุณสามารถลองสาเกหายากจากญี่ปุ่นหลายชนิด หรือค็อกเทลที่มีการผสมผสานระหว่างสาเกกับผลไม้สดที่ทำให้รสชาติละมุนและเข้ากับอาหารได้อย่างดีเยี่ยม
การมา Kissuisen จึงไม่ใช่การเลือกว่าจะกินอะไรจานใดจานหนึ่ง แต่เป็นการเดินทางไปสัมผัสกับอาหารญี่ปุ่นที่มีมิติหลากหลายตั้งแต่ Izakaya แบบอบอุ่นสนุกสนาน Teppanyaki ที่ตื่นเต้น Omakase ที่หรูหราและสงบ ไปจนถึง Sake Bar ที่เติมเต็มประสบการณ์ด้วยรสชาติและกลิ่นของเครื่องดื่ม การเลือกเมนูแนะนำที่ควรลองของที่นี่จึงขึ้นอยู่กับโอกาสและสไตล์ที่คุณต้องการ แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน คุณก็จะได้สัมผัส “ความเป็นญี่ปุ่นที่ลึกซึ้งกว่าคำว่ามื้ออาหาร” แน่นอน
Kissuisen ตั้งอยู่ใน อาคารโรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse บน ถนนสุรวงศ์ (262) ใจกลางย่านธุรกิจและวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ การเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะ—โรงแรมมีบริการรถรับส่งไปยัง สถานี BTS ศาลาแดง ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 15 นาที โดยเดินหรือรถสั้น ๆ
เปิดให้บริการหลายโซนในช่วงเวลา Lunch (11:30–14:30) และ Dinner (17:00–22:00) โดยมีแผนผังร้านสวยงามให้เลือกตามรูปแบบการกินที่ต้องการ
Q: โปรโมชั่น Eatigo ลดได้จริงไหม? ลดที่โซนไหนบ้าง?
A: ได้จริงครับ Eatigo ลดถึง 50% สำหรับเมนู Izakaya และ Teppanyaki แต่ ไม่ครอบคลุม Omakase หรือเมนูพิเศษเช่น A5 Wagyu หรือล็อบสเตอร์
Q: เมนูไหนคือไฮไลต์ที่ต้องลอง?
A: ต้องลอง Teppanyaki Set (฿1,590 NET) ที่เสิร์ฟครบมื้อ น้ำซุป มิโสะ สลัด และของหวาน และถ้าชอบจานเล็กแบบสไตล์อิซากายะ ค่อยเลือกจานตามใจ เช่น yakitori สดใหม่
Q: ช่วงเวลาไหนเหมาะจองผ่าน Eatigo?
A: ควรเลือกช่วงเวลาที่ลดสูงสุด เช่น ช่วงเริ่มร้านเปิด หรือช่วงแรกของมื้อเย็น — ในระบบ Eatigo จะแสดงช่วงเวลาที่ลดไว้ชัดแล้ว
Q: บรรยากาศร้านเป็นอย่างไร?
A: แบ่งเป็นหลายโซนตามสไตล์ จึงได้ทั้งความอบอุ่นแบบบาร์ไอซากายะ ปะทะกับความหรูของโอมากาเสะ และท็อปด้วยบาร์กลางแจ้งให้อารมณ์บ้านญี่ปุ่นผสานกับผับสไตล์ไทย ๆ
Q: เดินทางสะดวกไหม?
A: อยู่ใจกลางย่านสุรวงศ์ ใกล้ BTS เดินทางง่าย หรือขับรถก็สะดวก พร้อมบริการรับส่งของโรงแรม — สะดวกมากครับ
ถ้าคุณกำลังมองหา ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมในกรุงเทพฯ ที่ไม่ใช่แค่อาหารอร่อย แต่คือประสบการณ์กินที่สร้างความประทับใจ Kissuisen ณ Bangkok Marriott Hotel The Surawongse คือทางเลือกที่ควรลองสุด ๆ โดยเฉพาะเมื่อ จองผ่าน Eatigo — ลดสูงสุดถึง 50% ที่โซน Izakaya และ Teppanyaki
ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันผ่อนคลายกับเพื่อนในโซนอิซากายะ หรือค่ำคืนสุดหรูกับ Teppanyaki ชมเชฟโชว์ Live cooking หรือจะไปให้สุดที่ Omakase เสิร์ฟวัตถุดิบพรีเมียม คุณจะได้ประสบการณ์ที่ครบทั้ง ความอร่อย สุนทรียะ และราคาที่น่าประทับใจ
แนะนำเลยว่า ถ้าอยากให้มื้ออาหารพิเศษที่นี่ มีรสชาติและเรื่องราว — ลองจองล่วงหน้าผ่าน Eatigo ช่วงเวลาที่ลดเยอะ แล้วรีบไปสัมผัสประสบการณ์ที่ Kissuisen ก่อนโปรโมชั่นจะหมดครับ