

อาหารญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหาร แต่เป็นศิลปะและวัฒนธรรมที่เน้นความพิถีพิถันและคุณภาพ วัตถุดิบต้องสดใหม่ การปรุงต้องเรียบง่ายแต่ดึงรสชาติออกมาได้สูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ซาชิมิ เทมปุระ ราเมง หรือเทปปันยากิ ล้วนมีเสน่ห์ที่ทำให้คนไทยหลงรัก
ในปี 2025 กรุงเทพฯ มีร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งระดับหรูในโรงแรม 5 ดาว ไปจนถึงอิซากายะบรรยากาศกันเองที่เสิร์ฟในราคาสบายกระเป๋า เราได้คัดเลือก 15 ร้านอาหารญี่ปุ่นแนะนำ ที่การันตีว่าอร่อยเหมือนบินไปกินที่ญี่ปุ่นจริง ๆ

เริ่มต้นกันที่ Oishi Grand Buffet ร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน ความโดดเด่นของที่นี่คือความหลากหลายของเมนู ตั้งแต่ซูชิ ซาชิมิ เทมปุระ ไปจนถึงอาหารฟิวชันญี่ปุ่นที่จัดเต็มในไลน์บุฟเฟ่ต์ วัตถุดิบสดใหม่จัดเต็ม และยังเป็นร้านที่เหมาะกับการมาทั้งครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่อยากอิ่มแบบไม่อั้น
Oishi Grand Buffet เป็นบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคยที่สุด จุดเด่นคือ ความหลากหลาย ตั้งแต่ซูชิหน้าต่าง ๆ ซาชิมิสดใหม่ ปลาแซลมอนหั่นชิ้นหนา เทมปุระทอดกรอบ ไปจนถึงเมนูฟิวชันอย่างพิซซ่าญี่ปุ่นและสเต๊ก
หากพูดถึงร้านอาหารญี่ปุ่นในโรงแรม Kisso ที่ The Westin Grande Sukhumvit คือชื่อแรก ๆ ที่ถูกนึกถึง ร้านนี้เปิดให้บริการมานานกว่า 20 ปี และยังคงรักษามาตรฐานได้ดีเยี่ยม จุดเด่นคือการนำเข้าปลาสดจากญี่ปุ่นตามฤดูกาล ทำให้ลูกค้าได้ลิ้มรสวัตถุดิบพรีเมียมอย่างปลาฮามาจิหรือหอยนางรมฮอกไกโดในช่วงเวลาที่ดีที่สุด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดินเนอร์พิเศษหรือเลี้ยงรับรองลูกค้าธุรกิจ
อีกหนึ่งร้านที่มอบทั้งความอร่อยและความบันเทิงคือ Benihana ที่โรงแรม Grand Mercure Bangkok Atrium นี่คือร้านเทปปันยากิที่เชฟจะปรุงอาหารตรงหน้า พร้อมโชว์ลีลาสุดตื่นตา เมนูขึ้นชื่ออย่าง Wagyu Steak หรือ Lobster Teppanyaki เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะการได้เห็นเชฟปรุงข้าวผัดกระเทียมด้วยท่วงท่าที่สนุกสนานก็ถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ที่นี่แตกต่าง

ไม่ไกลกันมากที่ JW Marriott Bangkok มี Nami Teppanyaki Steakhouse ร้านเทปปันยากิที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวากิวและซีฟู้ดนำเข้า ความหรูหราของร้านบวกกับการได้เห็นเชฟปรุงอาหารอย่างใกล้ชิดทำให้มื้ออาหารเต็มไปด้วยความประทับใจ นี่คือร้านที่เหมาะกับมื้อสุดพิเศษที่ต้องการทั้งรสชาติและประสบการณ์ระดับพรีเมียม
หากอยากได้ร้านบรรยากาศอบอุ่นในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า Chisana Nami ที่ Erawan Bangkok คือคำตอบ ร้านนี้มีขนาดเล็กกว่าแต่ยังคงมาตรฐานวัตถุดิบและรสชาติญี่ปุ่นแท้ เมนูอย่างข้าวหน้าปลาดิบ เทมปุระ หรือราเมงรสกลมกล่อมเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนทำงานและครอบครัวที่อยากหาร้านญี่ปุ่นในเมืองที่ไม่ต้องเป็นมื้อฟุ่มเฟือยเกินไป
ที่ JW Marriott Bangkok ยังมีอีกหนึ่งร้านญี่ปุ่นคือ Tsu Japanese Restaurant ซึ่งแตกต่างจาก Nami เพราะเน้นเมนูแบบโมเดิร์นและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Unagi Don, ชุดซาชิมิ หรือราเมง ที่นี่เหมาะกับทั้งการประชุมมื้อกลางวันและการทานกับครอบครัวในบรรยากาศเงียบสงบ

อีกหนึ่งดาวรุ่งมาแรงคือ Kissuisen ที่โรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse ซึ่งเชฟญี่ปุ่นแท้รังสรรค์เมนู Omakase และ Kaiseki โดยเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลที่นำเข้ามาใหม่สดทุกสัปดาห์ จึงทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การกินที่แตกต่างทุกครั้งที่มาเยือน
ถัดไปที่อารีย์ Kinroll Ari – Handroll and Sake Bar ร้านเล็ก ๆ ที่เน้นเสิร์ฟ Handroll แบบสดใหม่คำต่อคำ ห่อด้วยสาหร่ายกรอบและข้าวญี่ปุ่นรสละมุน ท็อปด้วยวัตถุดิบสดอย่างแซลมอน ทูน่า หรืออูนิ เมื่อจับคู่กับสาเกคุณภาพ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศการกินเหมือนอยู่ในบาร์ญี่ปุ่นแท้ ๆ
สำหรับสาย Casual ต้องแวะ 123 Ichi Ni San ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูครบทุกอย่าง ตั้งแต่เบนโตะ ราเมง ซูชิ ไปจนถึงข้าวหน้าปลาดิบ ราคาเป็นมิตรและเหมาะกับการมาทานได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือครอบครัว

คนรักอุด้งต้องไม่พลาด GaGa Udon House ที่ทองหล่อ ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเส้นอุด้งทำสดเหนียวนุ่ม น้ำซุปรสเข้ม และเมนูยอดนิยมอย่าง Curry Udon หรือ Tempura Udon ที่รสชาติอร่อยจนหลายคนยกให้เป็นหนึ่งในร้านอุด้งที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ
อีกหนึ่งบรรยากาศที่ขาดไม่ได้คือร้านอิซากายะ 5 Yen Izakaya ที่สุขุมวิท ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคักเหมือนยกชินจูกุมาทั้งย่าน เมนูยากิโทริ หมูสามชั้นย่าง และเบียร์สดคือสิ่งที่ทำให้คนแวะเวียนมานั่งชิลหลังเลิกงานแทบทุกคืน
ถ้าพูดถึงร้านซูชิพรีเมียม Joushitsu Sushi คือตัวจริงของสาย Omakase ที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรงทุกวัน เมนู Otoro Sushi หรือ Uni Ikura Don คือจานที่บอกได้เลยว่าคุณภาพเกินคุ้ม เหมาะสำหรับนักชิมตัวจริงที่อยากสัมผัสประสบการณ์ระดับ Fine Dining

อีกหนึ่งร้านในโรงแรมหรูคือ Kisara ที่ Conrad Bangkok โดดเด่นทั้ง Sushi Bar และโซน Teppanyaki ที่เชฟรังสรรค์จานอาหารอย่างใส่ใจ เมนูที่ห้ามพลาดคือ Foie Gras Sushi และ Salmon Teppanyaki ที่ผสมผสานวัตถุดิบนำเข้ากับฝีมือเชฟญี่ปุ่นได้ลงตัว
Hashiri ที่ The Athenee Hotel เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้น Kaiseki Course และ Omakase ระดับ Fine Dining ทุกเมนูถูกออกแบบตามฤดูกาลเพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสวัตถุดิบในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ความประณีตในทุกจานสะท้อนถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างแท้จริง
ปิดท้ายด้วย Takumi ที่ Swissotel Bangkok Ratchada ร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นที่เสิร์ฟแบบ A la carte สดใหม่ทุกจาน คุณสามารถสั่งซาซิมิ เทมปุระ หรือข้าวหน้าปลาไหลได้ไม่อั้น แต่ทุกจานที่เสิร์ฟยังคงคุณภาพแบบร้าน A la carte จริง ๆ จึงถือเป็นบุฟเฟ่ต์ที่คุ้มค่าที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

Q: ร้านไหนเหมาะสำหรับ Omakase?
A: Joushitsu Sushi, Hashiri และ Kissuisen คือที่สุดสำหรับสายพรีเมียม
Q: บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นพรีเมียมมีที่ไหน?
A: Oishi Grand Buffet และ Takumi คุ้มค่าและคุณภาพดี
Q: ถ้าอยากได้อิซากายะแบบญี่ปุ่นแท้?
A: ต้อง 5 Yen Izakaya และ Kinroll Ari
Q: ร้านไหนเหมาะกับครอบครัว?
A: Oishi Grand Buffet, 123 Ichi Ni San และ Takumi

อยากทานอาหารญี่ปุ่นในราคาสบายกระเป๋า? แนะนำจองผ่าน Eatigo ที่มีส่วนลดสูงสุดถึง 50% ครอบคลุมทั้งร้านบุฟเฟ่ต์ โรงแรมหรู และร้านอิซากายะ
👉 จอง ร้านอาหารญี่ปุ่นแนะนำ ด้วยส่วนลดมากถึง 50% Eatigo ที่นี่
ปี 2025 กรุงเทพฯ ยังคงเต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายบุฟเฟ่ต์ที่อยากอิ่มแบบไม่อั้น สาย Omakase ที่ต้องการความประณีต สาย Rooftop ที่อยากได้วิวและบรรยากาศ หรือสาย Casual ที่อยากได้มื้อสบาย ๆ ในราคาย่อมเยา ลิสต์นี้มีครบทั้งหมด และอย่าลืมว่าเพียงจองผ่าน Eatigo คุณก็จะได้สัมผัสความอร่อยระดับพรีเมียมในราคาที่คุ้มค่าที่สุด