

รู้ไหมว่าคุณใช้จ่ายกับอาหารจริงๆ เท่าไหร่ในแต่ละวัน?
คำเตือน: อาจจะมากกว่าที่คุณคิด.
การดื่ม ชาไข่มุก และขนมปังจากร้านข้างทางในตอนเช้า, ทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนร่วมงานที่ร้านอาหารไทยทั่วไป, กิน ชาไข่มุกหรือขนม ช่วงบ่าย, และทาน ข้าวเย็นที่ร้านข้างทาง… แค่วันเดียว ฿150–฿300 ก็หายไปอย่างรวดเร็ว.
การใช้จ่ายด้านอาหารในประเทศไทยสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างเงียบๆ ทุกวัน การซื้ออาหารเล็กๆ น้อยๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร — แต่พอเปิดแอพธนาคารหรือดูในกระเป๋าสตางค์ เราอาจจะคิดในใจว่า:
“เดี๋ยวนะ… เงินหายไปไหนหมด?”
ในบล็อกนี้เราจะสำรวจ:
อาหารในประเทศไทยเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยมีตัวเลือกหลากหลายตั้งแต่อาหารข้างทางไปจนถึงมื้ออาหารในร้านอาหาร ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ใส่ใจงบประมาณหรือชอบทานอาหารนอกบ้าน ค่าใช้จ่ายด้านอาหาร สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วโดยที่คุณไม่รู้ตัว
นี่คือการแบ่งรายละเอียดของการทานอาหารในแต่ละวัน — ที่มีทั้งตัวเลือกที่ประหยัดและการทานอาหารในระดับปานกลาง
มื้อเช้าแบบไทย ๆ ที่รวดเร็ว ราคาไม่แพง และอิ่มท้อง:
💡 ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้น: แม้ว่าอาหารเช้าที่ถูกที่สุดจะดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าคุณซื้อทุกวัน มันจะเพิ่มขึ้นมากในระยะยาวจนกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในแต่ละเดือน
มื้อกลางวันในประเทศไทยอาจเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารยอดนิยมของท้องถิ่นและมื้ออาหารที่รวดเร็ว:
💡 ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้น: คุณอาจคิดว่า ฿50–฿80 นั้นไม่น่าจะมาก แต่เมื่อคุณทานอาหารนอกบ้านทุกวันหรือเลือกใช้บริการเดลิเวอรี่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขนมข้างทางเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมอาหารไทย และสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของคุณได้อย่างง่ายดาย:
💡 ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้น: ขนมอาจดูเหมือนไม่มากเมื่อดูแยกกัน แต่เมื่อทานขนมหลายครั้งในแต่ละวัน ก็สามารถทำให้คุณเสียเงินไปได้ ฿1,000–฿1,500 ต่อเดือน
ตลอดทั้งวัน หลายคนมักจะดื่มเครื่องดื่มสักแก้วหรือสองแก้ว:
💡 ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้น: เครื่องดื่ม แม้จะมีราคาถูก ก็สามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อบริโภคเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ กาแฟตอนเช้า หรือ น้ำอัดลมกับมื้อกลางวัน ค่าใช้จ่ายเล็กๆ เหล่านี้สามารถสะสมเป็น ฿500–฿1,000 ต่อเดือน
อาหารในประเทศไทยอร่อย หลากหลาย และมีราคาที่ไม่แพงมากนัก อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายด้านอาหารประจำวันสามารถเพิ่มขึ้นได้โดยที่เราไม่ทันได้สังเกต การผสมผสานกันของความสะดวกสบาย วัฒนธรรมการทานอาหารนอกบ้าน อัตราเงินเฟ้อ และการเพิ่มขึ้นของอาหารพรีเมียม หมายความว่าค่าใช้จ่ายในการกินนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มาดูปัจจัยหลักๆ ที่มีผลต่อการใช้จ่ายอาหารประจำวันกัน:
ในโลกที่เร่งรีบในปัจจุบัน ความสะดวกสบายมีบทบาทสำคัญในการใช้จ่ายอาหาร แม้ว่าการทำอาหารที่บ้านจะประหยัดกว่า แต่หลายคนก็เลือกที่จะทานอาหารง่ายๆ และรวดเร็ว:
แม้ว่าการซื้อเล็กๆ น้อยๆ จะดูไม่มาก แต่เมื่อกลายเป็นนิสัยในชีวิตประจำวัน ก็สามารถสะสมได้อย่างรวดเร็ว และมันง่ายที่จะใช้จ่ายมากเกินกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อ ความอยาก มาเยือน — เช่น ชาไข่มุก, ขนมหวาน หรือ ขนมทานเล่น ที่ช่วยให้ผ่านช่วงบ่ายไปได้
การทานอาหารนอกบ้านเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมไทย ไม่ว่าจะเป็นการพบปะเพื่อนที่ คาเฟ่ท้องถิ่น, ไปทานที่ ร้านข้างทาง, หรือรวมตัวกันทานข้าวกับครอบครัว การทานอาหารนอกบ้านมักจะถูกกว่าและสะดวกกว่าการทำอาหารที่บ้าน:
แม้ว่าการทำอาหารที่บ้านจะช่วยประหยัดเงิน แต่หลายคนก็เลือกความสะดวกสบายจากการทานอาหารนอกบ้าน เมื่อรวมกับแง่มุมทางสังคมของการทานข้างนอกแล้ว ก็กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การใช้จ่ายอาหารประจำวันเพิ่มขึ้นในประเทศไทย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาของอาหารในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน:
อัตราเงินเฟ้อนี้ส่งผลทั้งการซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและการทานอาหารนอกบ้าน ทำให้การรักษางบประมาณอาหารเป็นเรื่องยากขึ้น แม้ว่า อาหารข้างทางท้องถิ่น ที่เคยมีราคาถูกจะเห็นราคาขึ้นอย่างช้าๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวเยอะ
วัฒนธรรมกาแฟและพฤติกรรมการทานขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยได้พัฒนาไปอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการดื่ม ลาเต้หรูๆ หรือการทานขนมขบเคี้ยวพรีเมียม หลายคนตอนนี้ใช้จ่ายมากขึ้นกับสิ่งที่เคยถือเป็น “ของเล่น”:
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของ แอพพลิเคชั่นจัดส่งอาหาร ก็ได้นำมาซึ่ง ค่าบริการเพิ่มเติม:
ใครบอกว่าคุณต้องหยุดทานอาหารนอกบ้านหรือเลิกทานขนมโปรดเพื่อประหยัดเงิน? เป้าหมายคือการทานอาหารอย่างชาญฉลาดโดยที่ไม่รู้สึกว่าต้องยอมแพ้ในเรื่องรสชาติหรือความสุขที่ได้รับจากอาหารที่คุณชอบ นี่คือ 3 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องตัดสิ่งที่คุณรักออกไป:
คุณไม่จำเป็นต้องทำอาหารทุกวัน แค่แบ่งเวลา 1–2 วันต่อสัปดาห์ เพื่อเตรียมอาหารที่ง่ายและประหยัด:
💡 ประโยชน์: การทำอาหารเตรียมล่วงหน้าสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารประจำวันได้ถึง 50% โดยการลดความจำเป็นในการสั่งอาหารหรือทานอาหารนอกบ้าน มื้อที่คุณทำเองจะมีต้นทุนประมาณ ฿30–฿50 ต่อจาน ในขณะที่มื้อที่สั่งมาอาจมีราคา ฿100–฿150
ประเทศไทยเต็มไปด้วยตัวเลือกอาหารที่อร่อยและราคาไม่แพง โดยเฉพาะใน คาเฟ่ท้องถิ่น หรือ ร้านข้างทาง ไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัด หรือ ส้มตำ อาหารเหล่านี้มักจะอิ่มท้องและคุ้มค่าพอๆ กับการทานในร้านอาหารหรู
💡 ประโยชน์: คุณสามารถทานอร่อยโดยไม่ต้องใช้เงินมาก และยังได้สัมผัสรสชาติหลากหลาย อาหารข้างทางมักจะถูกกว่าการทานในร้านอาหารหรู
นี่คือที่ที่คุณจะสามารถ ประหยัดได้อย่างแท้จริง: Eatigo มอบส่วนลดสูงสุด 50% ในร้านอาหารที่คุณชื่นชอบเมื่อจองในช่วงเวลาที่ไม่พลุกพล่าน:
💡 ประโยชน์: แทนที่จะจ่าย ฿500 สำหรับมื้อซูชิ คุณสามารถจองผ่าน Eatigo และจ่ายเพียง ฿250 ซึ่งทำให้คุณมีเงินเหลือพอสำหรับ ขนมหรือของหวาน
กับ Eatigo คุณสามารถรับส่วนลดสูงสุด 50% ที่ร้านอาหารที่ร่วมรายการ นี่คือวิธีที่คุณสามารถประหยัดได้ในขณะที่เพลิดเพลินกับมื้ออาหารในประเทศไทย:
🤔 คุณคิดว่าคุณใช้จ่ายกับอาหารในแต่ละวันเท่าไหร่?
เป็น ฿200 หรือ ฿400? หรือมากกว่านั้น?
ลองคิดสักนิดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น — กาแฟสักแก้ว ขนมขบเคี้ยวเล็กๆ ข้าวกลางวันกับเพื่อนร่วมงาน การสั่งข้าวเย็นมาทานที่บ้าน ก่อนที่คุณจะรู้ มันก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
✅ ดาวน์โหลด Budget Tracker ฟรี (PDF)
เริ่มติดตามการใช้จ่ายอาหารในแต่ละวันและดูว่า คุณสามารถเลือกใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดได้ที่ไหนบ้าง
🍱 รับ 7-Day Smart Meal Planner
วางแผนมื้ออาหารของคุณในแต่ละสัปดาห์ โดยมีการผสมผสานระหว่าง การทำอาหารที่บ้าน และ ส่วนลด Eatigo เพื่อช่วยประหยัด
✅ เคล็ดลับสุดท้าย: อย่าหยุดทานอาหารนอกบ้าน แค่ทานอย่างชาญฉลาด
คุณไม่จำเป็นต้องยอมแพ้การทานอาหารนอกบ้าน เพียงแค่ใช้ Eatigo O’Clock deals เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 50%