

“มันไม่เกี่ยวกับการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย—มันเกี่ยวกับการดื่มด่ำกับช่วงเวลาของชีวิต”
เรามักจะคิดถึงความหรูหราในรูปแบบของกระเป๋าราคาแพง, การพักผ่อนในโรงแรมห้าดาว หรือการรับประทานอาหารค่ำด้วยแชมเปญ—แต่จริงๆ แล้วนั้นเป็นแค่การนิยามหนึ่งของความหรูหรา ความหรูหราที่แท้จริงคือความรู้สึกของคุณ ไม่ใช่จำนวนเงินที่คุณใช้ไป มันคือการชะลอความเร็วลง, การมีสติอยู่ในปัจจุบัน, และการเพิ่มความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในกิจวัตรประจำวันของคุณ
ในโลกที่เรามักจะเร่งรีบ—ตั้งแต่กำหนดเวลางานไปจนถึงภาระผูกพันกับครอบครัว—มันง่ายที่จะรู้สึกเหนื่อยล้า นี่คือเหตุผลที่ความหรูหราน้อยๆ สำคัญ มันทำหน้าที่เหมือนปุ่มหลบหนีขนาดย่อม เตือนให้เรารู้ว่าความสุขไม่ได้มาจากเหตุการณ์ใหญ่ๆ เสมอไป บางครั้งมันมาจากการหยุดชั่วขณะเล็กๆ อย่างมีเจตนา
นักจิตวิทยามักจะพูดถึงความสำคัญของช่วงเวลาสั้นๆ ของความสุข (micro-moments of joy) ซึ่งเป็นการกระทำเล็กๆ ที่ให้ความสุขที่ทำให้สมองของคุณได้รับการกระตุ้นจากโดปามีนและเซโรโทนิน—สารเคมีที่ทำให้รู้สึกดี ลดความเครียด และช่วยปรับอารมณ์
หากขาดช่วงเวลาเหล่านี้ ชีวิตก็อาจรู้สึกเหมือนรายการสิ่งที่ต้องทำที่ไม่มีวันสิ้นสุด แต่เมื่อคุณเพิ่มความหรูหราน้อยๆ เข้าไปในวันของคุณ วันนั้นก็จะรู้สึกสดใสและสมดุลมากขึ้น
ลองคิดดู:
การนั่งดื่มกาแฟคนเดียวพร้อมกับหนังสือที่ชอบ ที่คุณได้สัมผัสกับความเงียบแทนที่จะเป็นการตอบอีเมล
การเพิ่มขนมหวานให้มื้อเย็นของคุณ—เพราะใช่, คุณสมควรได้รับเค้กชิ้นนั้น
การสั่งเรียกน้ำย่อยเพียงเพราะอยากทาน ไม่ใช่เพราะคุณ “จำเป็น” ต้องทานมัน
ไม่มีช่วงเวลาใดที่ต้องใช้เงินมากนัก แต่พวกมันสร้างความรวยทางอารมณ์ พวกมันช่วยให้คุณรู้สึกได้รับการดูแล—แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่ดูแลตัวเองก็ตาม
คุณไม่จำเป็นต้องมีโอกาสพิเศษหรือเงินเดือนก้อนโตในการดูแลตัวเอง นี่คือลู่ทางที่มีงบประมาณจำกัดในการเพลิดเพลินกับความหรูหราในทุกๆ วัน:
ลดแสงไฟ, จุดเทียนหอมบางเล่ม, และเปิดเพลงโปรดของคุณ เพิ่มมาสก์หน้า, อ่างอาบน้ำฟอง หรือแม้แต่แช่เท้า สัมผัสด้วยชาสมุนไพรหรือไวน์สักแก้ว และทันใดนั้นบ้านของคุณก็จะรู้สึกเหมือนรีสอร์ทเพื่อสุขภาพ
พิพิธภัณฑ์, แกลเลอรีศิลปะ, และสถานที่ทางวัฒนธรรมมักมีวันลดราคาหรือราคาช่วงนอกเวลา การไปในวันธรรมดานอกจากจะประหยัดเงินแล้ว ยังทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวโดยไม่มีผู้คนพลุกพล่าน
ปกติเรามักจะซื้อดอกไม้สำหรับโอกาสพิเศษหรือให้กับคนอื่น แต่ทำไมไม่ซื้อให้ตัวเองบ้างล่ะ? ช่อดอกไม้เล็กๆ บนโต๊ะอาหารหรือโต๊ะทำงานของคุณจะเป็นการเตือนใจทุกวันว่าความงามก็สมควรมีที่ในชีวิตของคุณเหมือนกัน ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้วันของคุณดูสดใสและมีความหมายมากขึ้น
ทำให้การชงกาแฟธรรมดาของคุณพิเศษขึ้นด้วยการใช้เฟรนช์เพรสแทนที่จะรีบใช้กาแฟสำเร็จรูป
ใช้จานชามหรูหราที่คุณมีในวันธรรมดาๆ แค่วันอังคาร
หรือจะลองเดินเล่น 20 นาทีโดยไม่มีโทรศัพท์เพื่อรีเฟรชจิตใจดูสิ
สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้งบเยอะเลย แต่สามารถเปลี่ยนแปลงกิจวัตรธรรมดาๆ ของคุณให้กลายเป็นพิธีกรรมที่มีความหมายและทำให้คุณรู้สึกพิเศษขึ้นทุกวัน
และแน่นอนว่าหากอยากให้ตัวเองรู้สึกหรูหราเต็มที่ การออกไปทานมื้ออร่อยๆ นอกบ้านก็เป็นทางเลือกที่ดีสุดๆ เลยทีเดียว
ถ้ามีการตัดสินใจประจำวันอันหนึ่งที่สร้างความเครียดมากที่สุด ก็คงจะเป็น “วันนี้ทานอะไรดี?”
จากเมนูออนไลน์ที่ไม่รู้จะเลือกอันไหน, การเปรียบเทียบราคา, และการประสานงานกับเพื่อนหรือครอบครัว การเลือกที่ร้านอาหารอาจกลายเป็นเรื่องยุ่งยากและเครียดได้ แต่ eatigo ช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้น
นี่คือวิธีที่ eatigo เปลี่ยนเกม:
แทนที่จะต้องเครียดกับการเลือก, eatigo ช่วยให้ความหรูหราเล็กๆ เป็นเรื่องง่ายและไม่ทำให้กระเป๋าฉีก
หลายคนมองว่าการทานข้าวนอกบ้านเป็นการใช้เงินฟุ่มเฟือย—บางครั้งก็ถูกเก็บไว้สำหรับวันเกิด, วันครบรอบ, หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น ด้วยการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย คุณสามารถทำให้การทานข้าวนอกบ้านกลายเป็นความหรูหราประจำวันได้โดยไม่ต้องใช้เงินมากเกินไป
นี่คือวิธีการ:
ด้วยวิธีนี้ การทานข้าวนอกบ้านไม่ใช่แค่การให้รางวัลตัวเองในบางโอกาส—มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองที่คุณสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ
ความหรูหราไม่ใช่แค่เรื่องการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย—มันคือการสร้างพื้นที่ให้กับตัวเองในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย การทานกาแฟคนเดียว, คืนสปาที่บ้าน, ช่อดอกไม้สวยๆ หรือมื้ออาหารอร่อยๆ — ทั้งหมดนี้คือการเตือนใจเล็กๆ ที่บอกว่า “คุณสำคัญ”
และขอบคุณเครื่องมือที่ฉลาดอย่าง eatigo ที่ทำให้คุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรือใช้จ่ายมากเกินไปในการเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านี้ เพราะความจริงคือ: คุณสมควรได้รับความสุข, บ่อยครั้ง และในแบบของคุณเอง
✨ ค้นหาความหรูหราน้อยๆ ของคุณในแอป eatigo วันนี้—และเริ่มดูแลตัวเองโดยไม่ทำให้กระเป๋าฉีก.